บทนี้จะเกี่ยวกับชื่อคนและการแนะนำตัว
การแนะนำตัว มีประโยคที่ใช้มากก็คือ
นาม1 ‘เจี้ยว’ ชื่อเฉพาะ // นาม1
叫
ชื่อเฉพาะ [รูปแบบประโยค]
(นาม1 เป็น นาม หรือ สรรพนาม)
ใช้อธิบาย = นาม1 ชื่อ/ถูกเรียกว่า ชื่อเฉพาะ
(นาม1 เป็น นาม หรือ สรรพนาม)
ใช้อธิบาย = นาม1 ชื่อ/ถูกเรียกว่า ชื่อเฉพาะ
คำศัพท์ในหมวดสรรพนามเพิ่มอีก 6 คำ ครับ
‘หว่อ’ (我 - Wǒ) แปลว่า ผม,ฉัน,ดิฉัน,กู,เรา (ใช้เรียกตัวเอง)
‘ทา’ (他 - Tā) แปลว่า เขา (ใช้เรียกแทนผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช้ผู้เรียกและคู่สนทนา)
‘ทา’ (她 - Tā) แปลว่า หล่อน (ใช้เรียกแทนผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช้ผู้เรียกและคู่สนทนา)
‘ทา’ (它 - Tā) แปลว่า มัน (ใช้เรียกแทนสัตว์และสิ่งของ)
‘เจ้อ’ (这 - Zhè) แปลว่า นี่,นี้ (ใช้เรียกแทนสิ่งที่อยู่ใกล้)
‘น่า’ (那 - Nà) แปลว่า นั่น,นั้น (ใช้เรียกแทนสิ่งที่อยู่ไกล)
คำศัพท์ในหมวดคำนามบุคคลอีก 4 คำ ครับ
‘เซียนเชิง’ (先生- Xiānshēng) แปลว่า คุณ (ใช้สำหรับผู้ชาย)ตัวอักษร 先 แปลว่า ก่อน 生 แปลว่า เกิด
‘หนี่ชื่อ’ (女士 - Nǚshì) แปลว่า คุณ (ใช้สำหรับผู้หญิง)ตัวอักษร 女 แปลว่า หญิง 士 แปลว่า องครักษ์
‘เสียวเจ่’ (小姐 - Xiǎojiě) แปลว่า คุณ (ใช้สำหรับผู้หญิงอายุน้อย) ตัวอักษร 小 แปลว่า น้อย 姐 แปลว่า พี่สาว
‘ฟูเหยิน’ (夫人 - Fūrén) แปลว่า คุณนาย (ใช้สำหรับผู้หญิงแต่งงานแล้ว)ตัวอักษร 夫 แปลว่า สามี 人 แปลว่า คน
สร้างประโยคโดยนำคำศัพท์ที่มีมาแทนในรูปประโยคแล้วแปลเป็นไทยดูครับ
ตัวอย่าง : ‘หว่อเจี้ยว’สมชาย 我叫สมชาย= ผมชื่อสมชาย // ‘ทาเจี้ยว’สมหญิง 她叫สมหญิง= หล่อนชื่อสมหญิง // ‘ทาเจี้ยว’โอบามา‘เซียนเชิง’ 他叫โอบามา先生 = เขาคือคุณโอบาม่า
ส่วนเสริมพิเศษ
คำศัพท์ [แพงหูฉี่] ในไทยก็ใช้กันเป็นที่เข้าใจว่า “แพงมาก” โดยมาจากคำจีนกวางตุ้ง หื้อฉี่ หมายถึง หูฉลามนั่นเองซึ่งเป็นอาหารจีนที่แพงมาก แพงหูฉี่ก็เป็นการเปรียบเทียบของสองวัฒนธรรม ตรงตัวก็คือ แพงยังกะหูฉลาม
‘หยีชื่อ’ (鱼翅 - Yúchì) แปลว่า หูฉลาม ตัวอักษร 鱼 แปลว่า ปลา 翅 แปลว่า ครีบ
‘หว่อ’ (我 - Wǒ) แปลว่า ผม,ฉัน,ดิฉัน,กู,เรา (ใช้เรียกตัวเอง)
‘ทา’ (他 - Tā) แปลว่า เขา (ใช้เรียกแทนผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช้ผู้เรียกและคู่สนทนา)
‘ทา’ (她 - Tā) แปลว่า หล่อน (ใช้เรียกแทนผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช้ผู้เรียกและคู่สนทนา)
‘ทา’ (它 - Tā) แปลว่า มัน (ใช้เรียกแทนสัตว์และสิ่งของ)
‘เจ้อ’ (这 - Zhè) แปลว่า นี่,นี้ (ใช้เรียกแทนสิ่งที่อยู่ใกล้)
‘น่า’ (那 - Nà) แปลว่า นั่น,นั้น (ใช้เรียกแทนสิ่งที่อยู่ไกล)
คำศัพท์ในหมวดคำนามบุคคลอีก 4 คำ ครับ
‘เซียนเชิง’ (先生- Xiānshēng) แปลว่า คุณ (ใช้สำหรับผู้ชาย)ตัวอักษร 先 แปลว่า ก่อน 生 แปลว่า เกิด
‘หนี่ชื่อ’ (女士 - Nǚshì) แปลว่า คุณ (ใช้สำหรับผู้หญิง)ตัวอักษร 女 แปลว่า หญิง 士 แปลว่า องครักษ์
‘เสียวเจ่’ (小姐 - Xiǎojiě) แปลว่า คุณ (ใช้สำหรับผู้หญิงอายุน้อย) ตัวอักษร 小 แปลว่า น้อย 姐 แปลว่า พี่สาว
‘ฟูเหยิน’ (夫人 - Fūrén) แปลว่า คุณนาย (ใช้สำหรับผู้หญิงแต่งงานแล้ว)ตัวอักษร 夫 แปลว่า สามี 人 แปลว่า คน
สร้างประโยคโดยนำคำศัพท์ที่มีมาแทนในรูปประโยคแล้วแปลเป็นไทยดูครับ
ตัวอย่าง : ‘หว่อเจี้ยว’สมชาย 我叫สมชาย= ผมชื่อสมชาย // ‘ทาเจี้ยว’สมหญิง 她叫สมหญิง= หล่อนชื่อสมหญิง // ‘ทาเจี้ยว’โอบามา‘เซียนเชิง’ 他叫โอบามา先生 = เขาคือคุณโอบาม่า
ส่วนเสริมพิเศษ
คำศัพท์ [แพงหูฉี่] ในไทยก็ใช้กันเป็นที่เข้าใจว่า “แพงมาก” โดยมาจากคำจีนกวางตุ้ง หื้อฉี่ หมายถึง หูฉลามนั่นเองซึ่งเป็นอาหารจีนที่แพงมาก แพงหูฉี่ก็เป็นการเปรียบเทียบของสองวัฒนธรรม ตรงตัวก็คือ แพงยังกะหูฉลาม
‘หยีชื่อ’ (鱼翅 - Yúchì) แปลว่า หูฉลาม ตัวอักษร 鱼 แปลว่า ปลา 翅 แปลว่า ครีบ
ชื่อของคนจีน ต่างจากคนไทย
โดยจะขึ้นต้นด้วยแซ่(นามสกุล)และตามด้วยชื่อตัว เช่น
ประธานาธิบดี ‘หูจิ่นเทา’ (胡锦涛 - Hújǐntāo) คือคน แซ่ ‘หู’ ชื่อ ‘จิ่นเทา’
หรือดาราดัง ‘หลิวเต๋อหัว’ (刘德华 – Liúdéhuá) คือคนแซ่ ‘หลิว’ ชื่อ ‘เต๋อหัว’
ประธานาธิบดี ‘หูจิ่นเทา’ (胡锦涛 - Hújǐntāo) คือคน แซ่ ‘หู’ ชื่อ ‘จิ่นเทา’
หรือดาราดัง ‘หลิวเต๋อหัว’ (刘德华 – Liúdéhuá) คือคนแซ่ ‘หลิว’ ชื่อ ‘เต๋อหัว’
ในจีนในการระบุถึงตัวบุคคล
นิยมใช้กันหลายแบบ
- เวลาเรียกคนที่ไม่ได้เป็นญาติกัน จะเรียกด้วยแซ่กันมาก โดยใช้แซ่ขึ้นต้นและตามด้วยอาชีพ ตำแหน่ง หรือคำให้เกียรติ เช่น ‘เซียนเชิง’ ‘เสียวเจ่’ หรือ ‘ไท่ไท่’(ตามหลังแซ่ของสามี) ‘ฟูเหยิน’(ตามหลังแซ่ของสามี) เพื่อความสุภาพ
- หรือจะเรียกนับญาติแบบที่คนไทยก็คุ้นเคย โดย ใช้แซ่ขึ้นต้นและตาม พี่ ลุง น้า อา
- แต่ถ้าเรียกเพื่อนที่สนิทกันหรือเด็กๆก็สามารถเรียกชื่อตัวได้
- หรือจะเรียก ‘เหล่า’ ตามด้วยแซ่ ใช้กับคนอายุเท่ากันหรือมากกว่า ถ้าอายุน้อยกว่าก็จะเรียก ‘เสี่ยว’ นำหน้าแซ่ ได้เช่นกัน
*ถ้าผู้หญิงเรียกเพื่อนที่เป็นผู้ชาย แซ่ กู่ ว่า‘เหลากู่’ จะแปลกๆหน่อยเพราะ ‘เหลากู่’มีคำพ้องเสียงแปลว่าสามี แต่ถ้าเป็นผู้ชายเรียกก็ปกติไม่ได้มีใครคิดมาก เพราะ การผิดเพศยังไม่ได้รับการยอบรับแพร่หลายในจีน
วัฒนธรรม
เมื่อก่อน คนจีนมีลูกและพี่น้องมาก ในครอบครัวมักจะเรียกลำดับที่แทนชื่อตัว เช่น ลูกสี่ พี่ใหญ่ น้องเล็ก ลุงหก อาเจ็ด น้าสาม แต่ตอนนี้ คนจีนมีลูกน้อยลงมากเพียง 1 คน ไม่มีพี่น้อง และมักมีลุง ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยายแค่คนเดียว ไม่ต้องใส่ตัวเลขแล้ว และเวลาเรียกเด็กก็มักเรียกให้น่ารัก เช่น ‘เหวยเหว่ย’ ‘เป๋ยเป่ย’ แทนการเรียก ลำดับที่กันแล้ว
- เวลาเรียกคนที่ไม่ได้เป็นญาติกัน จะเรียกด้วยแซ่กันมาก โดยใช้แซ่ขึ้นต้นและตามด้วยอาชีพ ตำแหน่ง หรือคำให้เกียรติ เช่น ‘เซียนเชิง’ ‘เสียวเจ่’ หรือ ‘ไท่ไท่’(ตามหลังแซ่ของสามี) ‘ฟูเหยิน’(ตามหลังแซ่ของสามี) เพื่อความสุภาพ
- หรือจะเรียกนับญาติแบบที่คนไทยก็คุ้นเคย โดย ใช้แซ่ขึ้นต้นและตาม พี่ ลุง น้า อา
- แต่ถ้าเรียกเพื่อนที่สนิทกันหรือเด็กๆก็สามารถเรียกชื่อตัวได้
- หรือจะเรียก ‘เหล่า’ ตามด้วยแซ่ ใช้กับคนอายุเท่ากันหรือมากกว่า ถ้าอายุน้อยกว่าก็จะเรียก ‘เสี่ยว’ นำหน้าแซ่ ได้เช่นกัน
*ถ้าผู้หญิงเรียกเพื่อนที่เป็นผู้ชาย แซ่ กู่ ว่า‘เหลากู่’ จะแปลกๆหน่อยเพราะ ‘เหลากู่’มีคำพ้องเสียงแปลว่าสามี แต่ถ้าเป็นผู้ชายเรียกก็ปกติไม่ได้มีใครคิดมาก เพราะ การผิดเพศยังไม่ได้รับการยอบรับแพร่หลายในจีน
วัฒนธรรม
เมื่อก่อน คนจีนมีลูกและพี่น้องมาก ในครอบครัวมักจะเรียกลำดับที่แทนชื่อตัว เช่น ลูกสี่ พี่ใหญ่ น้องเล็ก ลุงหก อาเจ็ด น้าสาม แต่ตอนนี้ คนจีนมีลูกน้อยลงมากเพียง 1 คน ไม่มีพี่น้อง และมักมีลุง ป้า น้า อา ปู่ ย่า ตา ยายแค่คนเดียว ไม่ต้องใส่ตัวเลขแล้ว และเวลาเรียกเด็กก็มักเรียกให้น่ารัก เช่น ‘เหวยเหว่ย’ ‘เป๋ยเป่ย’ แทนการเรียก ลำดับที่กันแล้ว
No comments:
Post a Comment